อนาคตที่เรากำลังสร้าง: การขุดอุโมงค์, รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ และการเดินทางข้ามดาวโดยอีลอน มัสก์

สำรวจแนวคิดและโครงการล้ำสมัยของ Elon Musk ตั้งแต่การขุดอุโมงค์ใต้เมืองลอสแอนเจลิส รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ ไปจนถึงไฮเปอร์ลูปและการเดินทางข้ามดาวที่เปลี่ยนโฉมอนาคตการเดินทางของมนุษย์

อนาคตที่เรากำลังสร้าง: การขุดอุโมงค์, รถยนต์ไฟฟ้าอัจฉริยะ และการเดินทางข้ามดาวโดยอีลอน มัสก์

ในโลกที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและความท้าทายของวิถีชีวิตสมัยใหม่ยิ่งทวีความซับซ้อนขึ้น การมองเห็นภาพอนาคตที่น่าตื่นเต้นและมีแนวทางปฏิบัติจริงจึงเป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างยิ่ง เมื่อพูดถึงบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ก้าวไกล อีลอน มัสก์ คือหนึ่งในนักประดิษฐ์และนักธุรกิจที่ไม่เพียงแต่พูดถึงอนาคต แต่ลงมือสร้างมันขึ้นจริง ตั้งแต่การขุดอุโมงค์ใต้เมืองลอสแอนเจลิสเพื่อแก้ปัญหาการจราจร ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าและเป้าหมายการตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร บทสนทนาที่เปิดเผยถึงแนวคิดและแผนงานเหล่านี้ชวนให้เราตั้งคำถามและขบคิดถึงทิศทางของมนุษยชาติในอนาคต

ภาพจำลองเครือข่ายอุโมงค์ใต้เมืองลอสแอนเจลิส

การขุดอุโมงค์ใต้เมือง: ทางออกใหม่ของปัญหาจราจร

ปัญหาการจราจรที่ติดขัดกลายเป็นเรื่องน่าปวดหัวสำหรับหลายเมืองทั่วโลก โดยเฉพาะในลอสแอนเจลิสที่ขึ้นชื่อว่ารถติดที่สุดแห่งหนึ่ง อีลอน มัสก์ ได้นำเสนอแนวคิดการสร้างเครือข่ายอุโมงค์สามมิติใต้เมืองเพื่อแก้ไขปัญหานี้อย่างสิ้นเชิง โครงการนี้เริ่มต้นด้วยการขุดอุโมงค์ลึกลงไปใต้เมือง โดยมีเป้าหมายสร้างระบบขนส่งใต้ดินที่สามารถรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์ได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย

สิ่งที่ทำให้โครงการนี้น่าสนใจคือวิธีการผสานเข้ากับโครงสร้างเมืองอย่างมีประสิทธิผล รถยนต์จะถูกวางบนแพลตฟอร์มลิฟต์ซึ่งสามารถเคลื่อนย้ายเข้าสู่อุโมงค์ได้โดยใช้พื้นที่เพียงสองช่องจอดเท่านั้น นอกจากนี้ ความเร็วที่ออกแบบไว้สำหรับอุโมงค์นี้สูงถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (ประมาณ 130 ไมล์ต่อชั่วโมง) ทำให้การเดินทางจากย่านเวสทูดไปยังสนามบินลอสแอนเจลิสใช้เวลาเพียง 5-6 นาทีเท่านั้น

ภาพจำลองรถยนต์บนแพลตฟอร์มลิฟต์เข้าสู่อุโมงค์

หนึ่งในความท้าทายสำคัญของการสร้างอุโมงค์คือเรื่องต้นทุนที่สูงมาก ตัวอย่างเช่น การสร้างเส้นทางรถไฟใต้ดินในลอสแอนเจลิสที่มีระยะทาง 2.5 ไมล์ ใช้งบประมาณสูงถึง 2 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์ต่อไมล์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ทำให้หลายคนถอดใจในความเป็นไปได้ของโครงการนี้

มัสก์ชี้ให้เห็นว่าการลดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของอุโมงค์ลงครึ่งหนึ่งหรือมากกว่านั้น เป็นวิธีที่ช่วยลดต้นทุนได้มหาศาล เพราะต้นทุนการขุดขึ้นอยู่กับพื้นที่หน้าตัดของอุโมงค์ การลดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางจาก 26-28 ฟุต เหลือประมาณ 12 ฟุต จะช่วยลดพื้นที่หน้าตัดเหลือประมาณหนึ่งในสี่ ทำให้ต้นทุนลดลงไปถึงประมาณหนึ่งในห้า นอกจากนี้ การออกแบบเครื่องขุดอุโมงค์ให้ขุดและเสริมความแข็งแรงของผนังอุโมงค์ไปพร้อมกันโดยไม่ต้องหยุดพัก จะช่วยลดเวลาการทำงานและต้นทุนลงอีกครึ่งหนึ่ง

ด้วยวิธีการเหล่านี้ มัสก์มั่นใจว่าสามารถลดต้นทุนการขุดอุโมงค์เหลือเพียงหนึ่งในสิบของต้นทุนปัจจุบัน ซึ่งจะทำให้การสร้างเครือข่ายอุโมงค์ใต้เมืองเป็นไปได้จริงและแพร่หลายมากขึ้น

ความลึกและระดับของอุโมงค์

อีกจุดเด่นของโครงการนี้คือความสามารถในการขุดอุโมงค์ลงไปได้ลึกและมีหลายระดับไม่จำกัด ซึ่งจะช่วยกระจายปริมาณการจราจรและลดปัญหาการติดขัดได้อย่างมีนัยสำคัญ ไม่เหมือนกับการขยายถนนบนพื้นดินที่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่และจำนวนเลน การใช้พื้นที่ใต้ดินแบบสามมิติเปิดโอกาสให้แก้ไขปัญหาจราจรในเมืองใหญ่ได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ มัสก์ยังย้ำว่าเมื่ออุโมงค์ถูกขุดลึกมากขึ้นจนเกินสามหรือสี่เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางอุโมงค์ใต้บ้านเรือน จะไม่สามารถตรวจจับการขุดได้เลย เพราะพื้นดินมีคุณสมบัติในการดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีมาก นี่หมายความว่าโครงการนี้จะไม่รบกวนผู้อยู่อาศัยบนพื้นดินอย่างที่หลายคนกังวล

ทำไมไม่ใช่รถยนต์บิน? ข้อจำกัดและความเป็นไปได้ของเทคโนโลยีในอนาคต

เมื่อพูดถึงการแก้ไขปัญหาการจราจรในเมือง หลายคนอาจคิดถึงการใช้รถยนต์บินหรือโดรนขนส่งที่ลอยอยู่เหนือพื้นดิน ซึ่งจะช่วยลดการแออัดบนท้องถนนได้โดยตรง มัสก์เองก็ชื่นชอบเทคโนโลยีที่บินได้และยังเป็นผู้ผลิตจรวดด้วย แต่เขายอมรับว่ารถยนต์บินยังมีข้อจำกัดหลายอย่างที่ทำให้ไม่เหมาะเป็นทางออกหลักสำหรับการเดินทางในเมือง

ความท้าทายหลักคือเรื่องเสียงรบกวนและความปลอดภัย การที่มีวัตถุบินอยู่เหนือหัวตลอดเวลา จะสร้างความรู้สึกไม่สบายใจและความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การบำรุงรักษาไม่ดีจนชิ้นส่วนหลุดหรือเสียหายจนตกลงมา นอกจากนี้ ปัญหาการรับมือกับลมแรงและการควบคุมยานพาหนะในสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยก็เป็นอุปสรรคสำคัญ

ด้วยเหตุนี้ การสร้างระบบขนส่งใต้ดินที่ปลอดภัย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและสมเหตุสมผลกว่าในระยะสั้นและกลาง แม้ว่าเทคโนโลยีการบินในเมืองอาจจะพัฒนาไปได้ไกลในอนาคตก็ตาม

ไฮเปอร์ลูปและการเดินทางความเร็วสูงในอุโมงค์

อีกหนึ่งโครงการที่มัสก์เคยนำเสนอคือไฮเปอร์ลูป (Hyperloop) ระบบขนส่งความเร็วสูงในท่อสูญญากาศซึ่งสามารถทำความเร็วได้สูงมาก การใช้เครือข่ายอุโมงค์ที่ขุดลึกและมีความแข็งแรงมากพอ จะช่วยให้สามารถสร้างไฮเปอร์ลูปได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

การสร้างอุโมงค์ที่สามารถทนแรงดันน้ำใต้ดินได้สูงถึง 5-6 เท่าของแรงดันบรรยากาศธรรมดา จะทำให้สามารถสร้างสภาพแวดล้อมสูญญากาศภายในท่อได้โดยง่ายโดยไม่ต้องใช้พลังงานมากเกินไป นี่คือข้อได้เปรียบที่สำคัญของการนำไฮเปอร์ลูปมาใช้ใต้ดินแทนการสร้างโครงสร้างบนพื้นดิน

มัสก์ยังกล่าวว่าไม่มีข้อจำกัดเรื่องความยาวของอุโมงค์ ทำให้สามารถสร้างเส้นทางไฮเปอร์ลูประหว่างเมืองใหญ่ เช่น จากวอชิงตันไปนิวยอร์ก ที่จะช่วยลดระยะเวลาการเดินทางอย่างมหาศาล และยังลดผลกระทบต่อภูมิทัศน์บนพื้นดิน

ความท้าทายทางเทคนิคและการรับรู้ของสาธารณะ

แม้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้จะมีศักยภาพสูง แต่ก็ยังมีความกังวลในเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชน เช่น ความกังวลว่าการขุดอุโมงค์จะทำให้บ้านเรือนสั่นสะเทือนหรือเสี่ยงต่อความเสียหาย แต่มัสก์ชี้แจงว่าหากอุโมงค์ถูกขุดลึกพอ จะไม่มีผลกระทบเหล่านี้เกิดขึ้นจริง

รถยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ: การปฏิวัติการเดินทางบนถนน

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของวิสัยทัศน์อนาคตคือการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าและระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่เปลี่ยนแปลงวิธีที่เราขับขี่และเดินทางบนถนนอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะกับบริษัทเทสลา (Tesla) ที่มัสก์ก่อตั้งขึ้นเพื่อเร่งให้โลกก้าวสู่พลังงานสะอาดและยั่งยืน

มัสก์เปิดเผยว่าเทสลากำลังพัฒนาโหมดขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบที่สามารถเดินทางจากลอสแอนเจลิสไปนิวยอร์กโดยไม่ต้องสัมผัสพวงมาลัยเลยภายในปีเดียวกันนี้ โดยใช้เพียงกล้องและ GPS เท่านั้น โดยไม่ต้องพึ่งพา lidar หรือระบบเรดาร์

เทคโนโลยีนี้แตกต่างจากระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติทั่วไปที่ใช้ lidar เป็นหลัก เพราะมัสก์เชื่อว่าการใช้กล้องและการประมวลผลภาพเหมือนการใช้ "ระบบประสาทสายตา" ของมนุษย์ จะช่วยให้รถยนต์สามารถตัดสินใจและรับมือกับสถานการณ์บนถนนได้ดีกว่าและยืดหยุ่นกว่า

อีกจุดที่น่าจับตามองคือแนวคิดเรื่องการแชร์รถยนต์อัตโนมัติ เมื่อระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติสมบูรณ์แบบแล้ว รถยนต์สามารถทำงานเป็นบริการแท็กซี่ไร้คนขับที่ช่วยเจ้าของรถหารายได้ โดยที่เจ้าของสามารถปล่อยรถให้บริการคนอื่นและครอบคลุมค่าใช้จ่ายรถยนต์ได้เกือบทั้งหมด หรือแทบฟรีเลยทีเดียว

เทสลาชาแนลและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่

มัสก์ยังเปิดเผยความคืบหน้าของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของเทสลา เช่น รถยนต์รุ่น Model 3 ที่กำลังจะเริ่มผลิตในเดือนกรกฎาคม และชิ้นงานที่ได้รับความสนใจอย่างมากอย่าง Tesla Semi หรือรถบรรทุกไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่มีแรงบิดสูงและระยะทางวิ่งไกล

Tesla Semi เป็นการปฏิวัติวงการขนส่งสินค้า ด้วยความสามารถในการสร้างแรงบิดที่สูงกว่าเครื่องยนต์ดีเซลทั่วไป ทำให้สามารถลากจูงรถบรรทุกดีเซลขึ้นเนินได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังไม่มีเกียร์และสามารถขับขี่ได้อย่างนุ่มนวลคล่องตัวเหมือนรถสปอร์ต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการรถบรรทุก

ภาพ Tesla Semi รถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นต้นแบบ

พลังงานแสงอาทิตย์และแบตเตอรี่: ก้าวสำคัญสู่สังคมยั่งยืน

นอกจากการปฏิวัติการขนส่งแล้ว มัสก์ยังขยายวิสัยทัศน์ไปยังพลังงานสะอาดสำหรับบ้านเรือน ผ่านการพัฒนาสิ่งที่เรียกว่า Solar Roof หรือหลังคาพลังงานแสงอาทิตย์ ที่เป็นแผงโซลาร์เซลล์ฝังอยู่ในกระจกหลังคาอย่างกลมกลืนและสวยงาม

หลังคานี้ไม่เพียงแต่ผลิตไฟฟ้าได้เทียบเท่าหรือมากกว่าหลังคาปกติที่ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์แยกต่างหาก แต่ยังมีความทนทานสูงมากจนมัสก์กล้าการันตีแบบไม่จำกัดเวลาว่าสามารถทนทานได้ยาวนานกว่าบ้านหลังนั้นเสียอีก

ภาพหลังคาโซลาร์เซลล์แบบใหม่ติดตั้งบนบ้าน

สิ่งที่ทำให้หลังคานี้น่าตื่นเต้นคือการออกแบบให้ดูเหมือนหลังคาธรรมดาโดยใช้กระจกที่มีรูเล็ก ๆ ช่วยให้มองไม่เห็นความแตกต่างจากระยะไกล ทำให้ผู้คนไม่ต้องกังวลเรื่องความสวยงาม และยังช่วยลดต้นทุนการผลิตลงอย่างมาก

มัสก์คาดการณ์ว่าในอีก 15-20 ปีข้างหน้า หลังคาโซลาร์เซลล์จะกลายเป็นมาตรฐานของบ้านเกือบทุกหลัง โดยเฉพาะเมื่อราคาของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่เชื่อมโยงกับเทสลาและโรงงาน Gigafactory ลดลงอย่างต่อเนื่อง

Gigafactory: โรงงานแบตเตอรี่ขนาดยักษ์

Gigafactory คือโรงงานผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งเทสลาสร้างขึ้นเพื่อรองรับความต้องการแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าและระบบจัดเก็บพลังงานสำหรับบ้านและโรงงาน

เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ โรงงานนี้จะมีกำลังการผลิตแบตเตอรี่สูงถึง 100 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ซึ่งเทียบได้กับการผลิตแบตเตอรี่ทั่วโลกในปัจจุบัน นอกจากนี้ เทสลายังวางแผนเปิดโรงงาน Gigafactory อีก 2-4 แห่งในปีนี้ เพื่อเร่งการผลิตและลดต้นทุนให้มากขึ้น

ภาพโรงงาน Gigafactory ของเทสลา

การเดินทางสู่อวกาศและการตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร

ไม่เพียงแต่โลกใบนี้ มัสก์ยังมองไปไกลถึงอนาคตของมนุษยชาติในอวกาศ โดยเฉพาะเป้าหมายการตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร ด้วยการพัฒนาจรวดขนาดใหญ่ที่สามารถนำผู้คนและสัมภาระจำนวนมากขึ้นสู่อวกาศได้อย่างคุ้มค่า

จรวดที่มัสก์ออกแบบนั้นมีขนาดใหญ่มากจนสามารถเทียบเท่ากับตึกสูง 40 ชั้น และมีแรงขับเคลื่อนสูงกว่าจรวดซาเทิร์น 5 ถึง 4 เท่า ซึ่งเป็นจรวดที่ใช้ในโครงการอพอลโลของ NASA

สิ่งนี้เปิดโอกาสให้มนุษย์สามารถเดินทางไปยังดาวอังคารได้ภายใน 8-10 ปีข้างหน้า และสร้างเมืองที่มีประชากรถึงหนึ่งล้านคนบนดาวเคราะห์สีแดงนี้ มัสก์เน้นย้ำว่าการมีอนาคตที่น่าตื่นเต้นและมีความหมายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการกระตุ้นให้เราตื่นขึ้นมาในทุกเช้าและมีแรงผลักดันในการใช้ชีวิต

ภาพจำลองจรวดลำใหญ่สำหรับเดินทางสู่ดาวอังคาร

การสร้างแรงบันดาลใจและการทำงานเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

นอกจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีแล้ว มัสก์ยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการสร้างแรงบันดาลใจและการมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนสำหรับอนาคต เพื่อให้มนุษย์ไม่เพียงแค่ดำเนินชีวิตไปวัน ๆ แต่มีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่และน่าตื่นเต้น

เขายังพูดถึงความจำเป็นในการเร่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดผ่านบริษัทเทสลา ที่แม้ว่าโลกจะต้องไปถึงจุดนั้นอยู่แล้วเพราะความจำเป็น แต่การเร่งให้เกิดขึ้นเร็วขึ้นอีกสิบปีจะช่วยลดผลกระทบจากภาวะโลกร้อนได้มาก

ในขณะเดียวกัน มัสก์ก็เตือนว่าอนาคตที่มนุษย์กลายเป็นเผ่าพันธุ์หลายดาวเคราะห์นั้นไม่ใช่เรื่องที่แน่นอนและต้องอาศัยความพยายามอย่างหนักเพื่อให้เกิดขึ้นจริง เพราะเทคโนโลยีไม่ได้พัฒนาไปเองโดยอัตโนมัติ แต่ต้องมีคนทำงานและผลักดันอย่างต่อเนื่อง

บทสรุปส่งท้าย

  • โครงการขุดอุโมงค์ใต้เมืองลอสแอนเจลิสจะช่วยลดปัญหาการจราจรได้อย่างมีนัยสำคัญด้วยความเร็วสูงและโครงสร้างสามมิติที่ลึกและหลายระดับ
  • การลดขนาดอุโมงค์และการพัฒนาเครื่องขุดที่ทำงานต่อเนื่องเป็นกุญแจสำคัญในการลดต้นทุนให้เหลือเพียงหนึ่งในสิบของต้นทุนปัจจุบัน
  • รถยนต์บินยังมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยและเสียงรบกวน จึงไม่ใช่ทางออกหลักในระยะสั้น
  • ไฮเปอร์ลูปและการเดินทางในท่อสูญญากาศใต้ดินมีศักยภาพสูงในการเปลี่ยนแปลงระบบขนส่งความเร็วสูงระหว่างเมือง
  • เทสลากำลังจะเปิดตัวระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติเต็มรูปแบบที่สามารถเดินทางข้ามประเทศโดยไม่ต้องสัมผัสพวงมาลัยภายในปีนี้
  • การแชร์รถยนต์อัตโนมัติจะเปลี่ยนโฉมการเป็นเจ้าของรถและทำให้การเดินทางมีต้นทุนต่ำมากจนแทบฟรี
  • หลังคาโซลาร์เซลล์ของเทสลาจะกลายเป็นมาตรฐานของบ้านในอนาคต ด้วยความทนทานและความสวยงามที่เหมือนหลังคาปกติ
  • โรงงาน Gigafactory จะช่วยเพิ่มกำลังผลิตแบตเตอรี่และลดต้นทุน ทำให้พลังงานสะอาดเข้าถึงง่ายขึ้น
  • จรวดขนาดใหญ่ที่พัฒนาจะเปิดทางให้มนุษย์ตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคารในอีก 8-10 ปีข้างหน้า สร้างอนาคตที่น่าตื่นเต้นและมีความหมาย
  • อนาคตที่ดีต้องการทั้งเทคโนโลยีและแรงบันดาลใจ มัสก์เน้นการทำงานเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงสู่พลังงานสะอาดและการสำรวจอวกาศอย่างไม่หยุดยั้ง

Great! You’ve successfully signed up.

Welcome back! You've successfully signed in.

You've successfully subscribed to Readtrospect.

Success! Check your email for magic link to sign-in.

Success! Your billing info has been updated.

Your billing was not updated.