
ในปี 2014 Elon Musk ได้รับเกียรติให้เป็นวิทยากรในพิธีรับปริญญาของ USC Marshall School of Business ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เขาได้ถ่ายทอดประสบการณ์และคำแนะนำที่ล้ำค่าแก่บัณฑิตรุ่นใหม่ ผ่านการเล่าเรื่องที่ตรงไปตรงมาและเต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เนื้อหาที่นำเสนอในงานนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความสำเร็จของเขาในฐานะผู้ก่อตั้งและซีอีโอของบริษัทชั้นนำอย่าง Tesla และ SpaceX แต่ยังแฝงด้วยบทเรียนที่สำคัญสำหรับทุกคนที่ต้องการเดินทางบนเส้นทางของการสร้างสรรค์และนวัตกรรม

ทำงานหนักอย่างไม่มีข้อแม้: กุญแจสู่ความสำเร็จ
Elon Musk เริ่มต้นด้วยการเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นบริษัทหรือโครงการใหม่ เขายกตัวอย่างถึงช่วงเวลาที่เขาและพี่ชายต้องเช่าห้องสำนักงานเล็ก ๆ และนอนบนโซฟาแทนการเช่าอพาร์ตเมนต์ เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายและทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับงานที่ทำ
เรื่องราวของเขาสะท้อนให้เห็นถึงการเสียสละอย่างหนัก เช่น การอาบน้ำที่ YMCA และการใช้คอมพิวเตอร์เครื่องเดียวสำหรับทั้งการให้บริการเว็บไซต์และการเขียนโค้ดในเวลากลางคืน นอกจากนี้ Musk ยังเน้นย้ำว่าการทำงานหนักไม่ได้หมายถึงแค่ชั่วโมงที่นานขึ้น แต่หมายถึงการทุ่มเททุกช่วงเวลาว่างและความพยายามอย่างต่อเนื่อง
ในมุมมองของเรา การทำงานหนักแบบนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นและความอดทนที่จำเป็นในโลกของธุรกิจและนวัตกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่การแข่งขันสูงและการเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว การทำงานหนักจึงเป็นสิ่งที่แยกผู้ที่ประสบความสำเร็จออกจากผู้ที่ล้มเหลวอย่างชัดเจน
รวมทีมคนเก่ง: พลังของกลุ่มที่มีเป้าหมายเดียวกัน
ข้อที่สองที่ Musk ให้ความสำคัญคือการเลือกและรวมตัวกับคนที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นการเข้าร่วมทีมที่มีความสามารถสูงหรือการสร้างทีมสำหรับบริษัทของตัวเอง เขามองว่าบริษัทไม่ใช่สิ่งอื่นใดนอกจากกลุ่มคนที่รวมตัวกันเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์หรือบริการ
ความสำเร็จของบริษัทจึงขึ้นอยู่กับความสามารถ ความขยัน และความมุ่งมั่นของทีม Musk เน้นว่าการมีทีมที่มีความสามารถและทุ่มเทอย่างจริงจัง พร้อมทั้งโฟกัสไปในทิศทางเดียวกัน คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่กำหนดผลลัพธ์ขององค์กร
จากมุมมองของเรา การสร้างทีมที่ดีไม่ใช่แค่การหาคนเก่ง แต่หมายถึงการหาคนที่มีวิสัยทัศน์ร่วมและพร้อมจะเดินไปด้วยกันอย่างมั่นคง การบริหารทีมที่ดีจึงต้องคำนึงถึงความสมดุลระหว่างความสามารถและความเข้ากันได้ของสมาชิกในทีมด้วย
สัญญาณเหนือเสียงรบกวน: จัดลำดับความสำคัญอย่างชัดเจน
สิ่งที่ Musk เน้นย้ำอีกอย่างคือการโฟกัสที่ “สัญญาณ” หรือสิ่งที่มีผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์และบริการ แทนที่จะเสียเวลาและทรัพยากรไปกับสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ โดยเขายกตัวอย่าง Tesla ที่ไม่เคยใช้เงินกับการโฆษณา แต่เลือกที่จะลงทุนในงานวิจัยและพัฒนา การผลิต และการออกแบบ เพื่อทำให้รถยนต์มีคุณภาพดีที่สุด
คำแนะนำนี้สะท้อนถึงแนวคิดการบริหารทรัพยากรที่มีประสิทธิผล คือการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก และทุ่มเทให้กับสิ่งที่สร้างมูลค่าแท้จริง การโฟกัสที่ถูกที่ถูกเวลาจะช่วยให้บริษัทไม่หลงทางและสามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง
เราเห็นว่าในยุคที่ข้อมูลและสิ่งเร้ารอบตัวมากมาย การแยกแยะ “เสียงรบกวน” ออกจาก “สัญญาณ” เป็นทักษะที่สำคัญมากสำหรับผู้บริหารและผู้ประกอบการทุกคน การตัดสินใจอย่างมีเหตุผลและมีเป้าหมายชัดเจนจะช่วยประหยัดทั้งเวลาและเงินทุน
คิดแบบ First Principles: หลีกเลี่ยงการทำตามใครอย่างไม่ตั้งคำถาม
อีกหนึ่งประเด็นที่ Musk เน้นคือการคิดแบบ “First Principles” หรือการคิดจากพื้นฐานที่แท้จริง ไม่ใช่การเปรียบเทียบหรือเลียนแบบสิ่งที่คนอื่นทำ เขาอธิบายว่าการคิดแบบนี้เป็นวิธีที่นักฟิสิกส์ใช้ในการค้นหาความจริงที่ซับซ้อน เช่นเดียวกับที่ช่วยให้เข้าใจปรากฏการณ์ทางควอนตัม
การคิดแบบนี้ต้องใช้ความพยายามและเวลา เพราะต้องแยกแยะและตั้งคำถามกับทุกสมมติฐาน ไม่ใช่แค่ยอมรับสิ่งที่คนส่วนใหญ่ทำตามโดยไม่พิจารณา ซึ่งจะช่วยให้เราเห็นโอกาสใหม่ ๆ และวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างจากเดิม
ในแง่ของเรา การคิดแบบ First Principles เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการนวัตกรรม เพราะมันเปิดทางให้เราคิดอย่างสร้างสรรค์และไม่ถูกจำกัดด้วยกรอบเดิม ๆ แม้จะยากแต่ก็เป็นสิ่งที่ควรฝึกฝนและนำมาใช้ในทุกวงการ
ช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการเสี่ยง: ลงทุนกับสิ่งที่กล้าหาญก่อนมีภาระ
Musk ยังแนะนำว่านี่คือเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการเสี่ยง เพราะในช่วงที่ยังไม่มีภาระผูกพันมาก เช่น ไม่มีลูกหรือครอบครัวที่ต้องดูแล การตัดสินใจกล้าหาญและการลองผิดลองถูกจะง่ายกว่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาที่มีภาระมากขึ้น
เมื่อคนเราโตขึ้นและมีครอบครัว ภาระหน้าที่จะเพิ่มขึ้น ทำให้ความเสี่ยงที่รับได้ลดลง ดังนั้นการใช้ช่วงเวลานี้ในการทำสิ่งใหม่ ๆ ที่อาจล้มเหลวได้ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและจะไม่เสียใจในภายหลัง
เรามองว่านี่เป็นคำแนะนำที่มีค่า เพราะมันช่วยให้เข้าใจธรรมชาติของชีวิตและการบริหารความเสี่ยงอย่างเหมาะสม การรู้จักใช้โอกาสในช่วงเวลาที่เหมาะสม จะช่วยเสริมสร้างประสบการณ์และความมั่นใจสำหรับอนาคต
Quote คำพูดกระแทกใจ
- "If somebody else is working fifty hours and you're working a hundred, you'll get twice as much done in the course of a year as the other company." (ถ้าคนอื่นทำงาน 50 ชั่วโมง แต่เราทำงาน 100 ชั่วโมง เราจะทำงานได้มากกว่าถึงสองเท่าในหนึ่งปี)
- "Don't just follow the trend. Think in terms of first principles." (อย่าแค่ตามเทรนด์ แต่จงคิดจากหลักการพื้นฐาน)
- "Now is the time to take risk." (ตอนนี้คือเวลาที่ควรกล้ารับความเสี่ยง)
การนำไปใช้ในชีวิต
คำแนะนำจาก Elon Musk สามารถนำมาปรับใช้ได้ทั้งในชีวิตส่วนตัวและการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นเส้นทางอาชีพหรือธุรกิจ
- ตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่: ไม่ว่าจะเป็นโครงการเล็กหรือใหญ่ การทุ่มเทอย่างจริงจังจะสร้างความแตกต่างอย่างชัดเจน
- เลือกทีมที่ดี: การทำงานร่วมกับคนที่เก่งและมีเป้าหมายเดียวกัน จะช่วยให้บรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้นและมั่นคงกว่า
- โฟกัสที่สิ่งสำคัญ: ตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกเพื่อให้ทรัพยากรและเวลาที่มีใช้ไปกับสิ่งที่เพิ่มมูลค่าจริง ๆ
- ฝึกคิดจากหลักการพื้นฐาน: ตั้งคำถามและวิเคราะห์ปัญหาอย่างลึกซึ้ง เพื่อหาทางออกใหม่ ๆ ที่ไม่เหมือนใคร
- กล้ารับความเสี่ยง: ใช้ช่วงเวลาที่ยังมีความยืดหยุ่นในชีวิตให้เต็มที่ กล้าลงมือทำสิ่งที่ท้าทาย แม้จะมีโอกาสล้มเหลว
บทสรุปส่งท้าย - สิ่งที่ได้เรียนรู้
- ความสำเร็จมาจากการทำงานหนักอย่างต่อเนื่องและไม่ยอมแพ้
- ทีมที่มีความสามารถและเป้าหมายเดียวกันเป็นหัวใจของความสำเร็จ
- ต้องโฟกัสที่สิ่งที่สร้างมูลค่าแท้จริง ไม่ใช่สิ่งที่ดูเหมือนจะสำคัญแต่ไม่ได้ช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์
- การคิดแบบ First Principles ช่วยให้เกิดนวัตกรรมและวิธีแก้ปัญหาใหม่ ๆ
- ช่วงเวลาที่ไม่มีภาระหนักคือเวลาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการกล้ารับความเสี่ยงและทำสิ่งใหม่