พูดอย่างไรให้คนฟังอยากฟัง: เคล็ดลับจาก Julian Treasure ที่จะเปลี่ยนเสียงของเราให้ทรงพลัง

เรียนรู้ 7 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยงในการพูด และหลัก HAILE พร้อมเครื่องมือเสียงที่จะช่วยให้คำพูดของคุณทรงพลังและน่าฟังมากขึ้น จากคำแนะนำโดย Julian Treasure ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงจาก TED

พูดอย่างไรให้คนฟังอยากฟัง: เคล็ดลับจาก Julian Treasure ที่จะเปลี่ยนเสียงของเราให้ทรงพลัง

เสียงมนุษย์เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ มันไม่ใช่แค่เสียงที่เราส่งออกมา แต่เป็นพลังที่สามารถเริ่มต้นสงคราม หรือแม้แต่บอกว่า "ฉันรักคุณ" ได้อย่างลึกซึ้ง ทว่าหลายครั้งที่เราพูด แต่กลับรู้สึกเหมือนไม่มีใครฟัง นี่คือคำถามที่ Julian Treasure ผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงจาก TED ได้ตั้งขึ้นและมอบคำตอบผ่านเคล็ดลับง่าย ๆ ในการพูดที่ทำให้ผู้ฟังอยากรับฟังอย่างแท้จริง

Julian Treasure เริ่มพูดถึงพลังของเสียงมนุษย์

เจาะลึก 7 ข้อผิดพลาดในการพูดที่ทำให้คนไม่อยากฟัง

ก่อนจะพูดถึงเทคนิคที่ช่วยให้เสียงของเรามีพลัง Julian Treasure ได้ชี้ให้เห็นถึงข้อผิดพลาดสำคัญ 7 ประการที่มักทำให้คำพูดของเราขาดแรงดึงดูดและทำให้ผู้ฟังปิดหู หนึ่งในนั้นคือ “การนินทา” ซึ่งเป็นการพูดถึงคนอื่นในทางลบโดยไม่อยู่ตรงหน้า ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่คนส่วนใหญ่รู้ดีว่าเป็นสิ่งไม่ดี แต่ก็ยังทำกันอย่างแพร่หลาย และที่น่าขันก็คือ คนที่นินทาเรา มักจะนินทากันเองในอีกไม่กี่นาทีถัดไป

ข้อผิดพลาดถัดมาคือ “การตัดสินคนอื่น” การฟังคนที่ตัดสินเราอยู่ตลอดเวลาเป็นเรื่องยาก เพราะเราจะรู้สึกเหมือนถูกประเมินและถูกมองในแง่ลบ ทำให้เราไม่อยากตั้งใจฟัง

“ความลบ” ก็เป็นอีกหนึ่งอุปสรรคใหญ่ในการสื่อสาร เช่นการพูดในเชิงลบหรือการบ่นที่มากเกินไป Julian Treasure เล่าเรื่องแม่ของเขาที่ในช่วงปีสุดท้ายของชีวิตกลับกลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้ายและไม่อยากฟังใคร ความลบเหล่านี้สร้างบรรยากาศที่ไม่ดีและทำให้คนรอบข้างรู้สึกเหนื่อย

ตัวอย่างการพูดในเชิงลบและผลกระทบต่อผู้ฟัง

ข้อผิดพลาดที่สี่คือ “การให้ข้อแก้ตัว” หรือการโยนความผิดให้ผู้อื่นแทนที่จะรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำ การพูดแบบนี้ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าคนพูดไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่จริงใจ

ข้อที่ห้าคือ “การตกแต่งเรื่องราวหรือพูดเกินจริง” ซึ่งบางครั้งอาจทำให้คำพูดดูไม่น่าเชื่อถือ เพราะคนเรามักจะไม่อยากฟังคนที่ชอบพูดเกินจริงหรือโกหก

และสุดท้าย “การยึดติดกับความคิดเห็นของตัวเองจนไม่ฟังผู้อื่น” หรือการผสมผสานระหว่างข้อเท็จจริงกับความคิดเห็นส่วนตัวอย่างไม่เหมาะสม ทำให้ผู้ฟังรู้สึกเหมือนถูกโจมตีด้วยคำพูดที่ไม่ใช่ความจริง

สรุป 7 ข้อผิดพลาดหลักที่ควรหลีกเลี่ยงในการพูด

  • นินทาและพูดลับหลังคนอื่น
  • ตัดสินและประเมินผู้อื่นอย่างไม่เป็นธรรม
  • พูดในเชิงลบหรือบ่นมากเกินไป
  • ให้ข้อแก้ตัวและโยนความผิด
  • พูดเกินจริงหรือตกแต่งเรื่องราว
  • ยึดมั่นในความคิดเห็นส่วนตัวจนไม่ฟังผู้อื่น
สรุปข้อผิดพลาด 7 ประการในการพูด

กุญแจสู่การพูดที่ทรงพลัง: หลัก “HAILE”

หลังจากที่ได้พูดถึงข้อผิดพลาดแล้ว Julian Treasure ก็ได้นำเสนอหลักการพูดที่เรียกว่า “HAILE” ซึ่งเป็นคำย่อที่ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้คำพูดของเรามีพลังและน่าฟังขึ้น

เริ่มจาก “H” ที่หมายถึง “Honesty” หรือความซื่อสัตย์ การพูดอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจนโดยไม่หลอกลวงหรือปกปิดความจริง เป็นพื้นฐานของความน่าเชื่อถือ

“A” คือ “Authenticity” หรือความแท้จริง เป็นการแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริง ไม่ต้องแสร้งทำหรือปลอมแปลงใคร การพูดที่มาจากความเป็นตัวเองจะทำให้ผู้ฟังรู้สึกเชื่อมโยงและไว้วางใจ

“I” ย่อมาจาก “Integrity” หมายถึงความซื่อตรงในการกระทำ กล่าวคือ การพูดสิ่งที่เราทำจริงและสามารถยืนยันได้ เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือระหว่างผู้พูดกับผู้ฟัง

และสุดท้าย “L” คือ “Love” ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่ความรักแบบโรแมนติก แต่หมายถึงการมีเจตนาดีและหวังดีต่อผู้ฟัง การพูดที่เต็มไปด้วยความปรารถนาดีจะทำให้คำพูดนั้นมีพลังและน่าฟังมากขึ้น

หลัก HAILE ในการพูดที่มีพลัง

Julian Treasure ชี้ให้เห็นว่า การพูดที่ดีไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งที่พูด แต่ยังขึ้นอยู่กับวิธีการพูดด้วย ซึ่งเป็นเหมือน “เพลง” ที่เราต้องใส่จังหวะและความรู้สึกเข้าไปในคำพูด

เครื่องมือเสียงที่ช่วยเพิ่มพลังให้คำพูด

นอกจากเนื้อหาที่พูดแล้ว เสียงที่ใช้ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ Julian Treasure แนะนำให้เราใช้ “เครื่องมือเสียง” ที่มีอยู่ในตัวเราให้เป็นประโยชน์ ได้แก่

  1. ช่วงเสียง (Pitch): เสียงที่สูงหรือต่ำมีผลต่อการรับรู้ของผู้ฟัง เสียงที่ต่ำจากหน้าอกจะให้ความรู้สึกหนักแน่นและน่าเชื่อถือกว่าเสียงที่สูงจากจมูกหรือคอ
  2. ลักษณะเสียง (Tone): เสียงที่นุ่มนวล อบอุ่น และมีชีวิตชีวาจะดึงดูดผู้ฟังมากกว่าเสียงที่แข็งกระด้างหรือแหบแห้ง
  3. จังหวะและการเน้นเสียง (Rhythm and Emphasis): การพูดที่มีจังหวะ สลับเร็วช้า และเน้นคำสำคัญ จะช่วยให้คำพูดมีพลังและน่าสนใจมากขึ้น
  4. ความเร็ว (Pace): การพูดเร็วเกินไปอาจทำให้ผู้ฟังตามไม่ทัน แต่การพูดช้าก็ช่วยให้เน้นความหมายและให้เวลาคิดตาม
  5. การใช้ความเงียบ (Pauses): การเว้นช่วงเงียบเล็กน้อยในระหว่างการพูด ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับคำพูด และสร้างความตื่นตัวให้ผู้ฟัง
  6. ระดับเสียง (Volume): การปรับระดับเสียงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ช่วยสร้างอารมณ์และความน่าสนใจ แต่ต้องระวังไม่ใช้เสียงดังเกินไปจนรบกวนผู้อื่น
ตัวอย่างการใช้ช่วงเสียงต่ำเพื่อความน่าเชื่อถือ

เสียงที่ดีไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่สามารถฝึกฝนได้ Julian Treasure แนะนำให้เราฝึกซ้อมเสียงด้วยการทำ “การอุ่นเครื่องเสียง” ก่อนพูด โดยมีแบบฝึกหัดง่าย ๆ เช่น การยืดแขนขึ้นพร้อมหายใจลึก และออกเสียง “อาาา” เพื่อเปิดช่องเสียง การฝึกพูดท่ามกลางเสียงต่าง ๆ เช่น “บา บา บา” หรือ “ร ร ร” จะช่วยให้กล้ามเนื้อรอบปากและลิ้นทำงานดีขึ้น

การฝึกเหล่านี้นอกจากจะช่วยให้เสียงชัดเจนขึ้น ยังช่วยลดความตื่นเต้น และเพิ่มความมั่นใจเมื่อพูดในที่สาธารณะ เช่น เวทีพูดต่อหน้าคนจำนวนมาก หรือสถานการณ์สำคัญอย่างการขอแต่งงานหรือการนำเสนองาน

การอุ่นเครื่องเสียงก่อนพูด

การออกแบบสภาพแวดล้อมเพื่อการสื่อสารที่ดี

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การพูดดีต้องอาศัยสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม Julian Treasure ตั้งคำถามว่า หากเราพูดอย่างทรงพลัง แต่ผู้ฟังอยู่ในสถานที่ที่มีเสียงรบกวนหรือไม่พร้อมฟัง โลกจะเปลี่ยนแปลงได้อย่างไร

จินตนาการว่าโลกที่ทุกคนพูดด้วยเสียงที่ชัดเจน มีจังหวะ และความจริงใจ พร้อมกับผู้ฟังที่ตั้งใจฟังในสถานที่ที่เงียบสงบและเหมาะสม การสื่อสารจะเต็มไปด้วยความเข้าใจและความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น นี่คือโลกที่มีการสื่อสารที่แท้จริงและน่าฟัง

การสื่อสารในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

บทสรุป: เสียงของเราเป็นพลังที่เปลี่ยนแปลงโลกได้

เสียงมนุษย์ไม่ใช่แค่เครื่องมือสื่อสารธรรมดา แต่เป็นพลังที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกและความสัมพันธ์ Julian Treasure ชี้ให้เห็นว่า การพูดที่ดีเริ่มจากการหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดสำคัญ 7 ประการ และยึดหลัก “HAILE” ที่ประกอบด้วยความซื่อสัตย์ ความแท้จริง ความซื่อตรง และความปรารถนาดีต่อผู้อื่น

นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือเสียงอย่างเหมาะสม เช่น การควบคุมช่วงเสียง จังหวะ และการเว้นวรรค จะช่วยเพิ่มพลังให้คำพูด และการฝึกซ้อมเสียงอย่างสม่ำเสมอจะทำให้เราพูดได้อย่างมั่นใจ

สุดท้าย การออกแบบสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการสื่อสารก็เป็นสิ่งจำเป็น เพราะแม้จะพูดดีแค่ไหน หากผู้ฟังไม่ได้อยู่ในสภาพที่พร้อมฟัง ก็ยากที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง

บทสรุป

  • หลีกเลี่ยง 7 ข้อผิดพลาดสำคัญในการพูด เช่น นินทา ตัดสินผู้อื่น และพูดในเชิงลบ
  • ยึดหลัก “HAILE” คือ ความซื่อสัตย์ (Honesty), ความแท้จริง (Authenticity), ความซื่อตรง (Integrity), และความปรารถนาดี (Love)
  • ใช้เครื่องมือเสียงอย่างชาญฉลาด เช่น ช่วงเสียง ลักษณะเสียง จังหวะ และการเว้นวรรค
  • ฝึกซ้อมเสียงด้วยการอุ่นเครื่องเสียงก่อนพูด เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความชัดเจน
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการสื่อสาร เพื่อให้ผู้ฟังพร้อมรับฟังและเข้าใจ

การพูดเป็นศิลปะและวิทยาศาสตร์ที่ควรได้รับการพัฒนาและฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เสียงของเราสามารถสร้างแรงบันดาลใจ เปลี่ยนแปลงความคิด และเชื่อมโยงผู้คนได้อย่างมหาศาล ขอให้เสียงของเราเป็นพลังที่ดีและทรงคุณค่าในทุกบทสนทนา


Great! You’ve successfully signed up.

Welcome back! You've successfully signed in.

You've successfully subscribed to Readtrospect.

Success! Check your email for magic link to sign-in.

Success! Your billing info has been updated.

Your billing was not updated.